อ่านออกเสียงภาษาอังกฤษ...ไม่ยากอย่างที่คิด
แค่ดัดจริตสักนิด....ก็เก่งได้
หรรษากับเรื่องสุดท้ายด้วยสระ o (โอ)
เรื่องสุดท้ายเพื่อเป็นตัวอย่าง
เป็นเรื่องที่เน้นการอ่านออกเสียงสระ o/oa
(โอ) อ่านไปแบบ slow & slow อย่าเพิ่งโมโหกันนะจ๊ะ
During winter on heavy snowy days, Thomas and Rose always go outside for their works.
They go by boat, sometimes they walk or go outside by their old bicycles. They ride to a long, long road and go back home late in the evening. The weather during snowy days is very, very cold.
Look at the doves!. Oh, they don’t like snow, do they?
After snowy days, Joe who is Thomas’s son rows a boat very slowly in the river. He wants to show rowing boat to his brother, Robert. Robert grows fast but he speaks so slowly. Both Joe and Robert go to school together on the boat.
They
don’t want to ride on the road. Robert likes to
play his yoyo but Joe likes to row his
boat.
เมื่อผู้สนใจได้ฝึกอ่านออกเสียงหลายๆ เรื่องแล้ว อยากให้เข้าใจว่า ภาษาอังกฤษไม่ยากอย่างที่คิด แค่ดัดจริตสักนิดก็เก่งได้...อ๊ะๆ ก่อนจะผ่านไปต้องดูก่อนว่าเรื่องที่อ่านมันเกี่ยวกับอะไร...ไม่ยากเลยใช่ไหม...ลองแปลดู...จุ๊กกรู๊ๆ
ในช่วงฤดูหนาว วันที่มีหิมะตกอย่างหนักหน่วง โทมัสและโรสออกไปทำงานนอกบ้านเสมอ พวกเขาไปทางเรือและบางครั้งก็เดินหรือปั่นจักรยานคันเก่าๆ ไปข้างนอกบ้าง พวกเขาปั่นจักรยานไปบนถนนแสนไกล
และกลับมาถึงบ้านค่ำมืด อากาศช่วงหิมะตกช่างหนาวเย็นจับใจ ดูนกพิราบเหล่านั้นซิ ! โอ้
นกพิราบนั่นไม่ชอบหิมะซะจริงเลยใช่ไหม
ช่วงหิมะตกผ่านไป โจซึ่งเป็นลูกชายของโทมัสพายเรืออย่างช้าๆ ไปตามแม่น้ำ เขาต้องการแสดงวิธีการพายเรือให้น้องโรเบิร์ตดู โรเบิร์ตเติบโตเร็วแต่พูดได้ช้า ทั้งโจและโรเบิร์ตขึ้นเรือไปโรงเรียนด้วยกัน
โรเบิร์ตชอบเล่นโยโย่ แต่โจชอบปั่นจักรยาน
เห็นไหมคะ เรื่องสั้นทั้งหมดที่นำมาเป็นตัวอย่างเป็นเรื่องง่ายๆ ในรูปของ Present
Simple Tense (ปัจจุบันกาลธรรมดา) คงจะช่วยให้รู้แนวทางการอ่านออกเสียงได้บ้างแล้ว
หลังจากนั้นควรอ่านเรื่องหรือบทความในรูปกาลต่างๆ ที่ยากขึ้นเรื่อยๆ แต่อย่าลืมนะคะ...คุณต้องใช้เวลาและความพยายามให้มากพอ
ควรเริ่มจากความมุ่งมั่นและพยายามอย่างไม่ลดละ วางเป้าหมายที่ชัดเจนในการเรียนภาษาอังกฤษ
ที่จะช่วยให้คุณเกิดแรงจูงใจมากพอที่จะเอาชนะอุปสรรคทั้งหลายเพื่อ “พิชิต” ภาษาอังกฤษให้ได้
➤สตีเฟน
คราเชน (Stephen Krashen) นักภาษาศาสตร์ชาวอเมริกัน ผู้เชี่ยวชาญการเรียนภาษาที่
2 ได้กล่าวไว้ว่า "เราจะรับรู้ภาษา
เมื่อเราเข้าใจสิ่งที่ได้ยินหรืออ่านได้" แต่ถ้าขาดการฝึกฝนที่ต่อเนื่องและเลือกใช้วิธีการที่ไม่เหมาะสม
ก็ไม่ทำให้เราเก่งขึ้น ดังนั้นธรรมชาติของการเรียนภาษาของแต่ละคนจึงมีความแตกต่างกัน
แต่ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็เก่งภาษาได้ไม่แพ้กันถ้าเรียนตามธรรมชาติของภาษา
ด้วยความรักและความปรารถนาดี...สู้ๆ ครับ